วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สายพันธุ์กระต่าย สุนัข และแมว

🐰กระต่ายมีกี่พันธุ์ พันธุ์อะไรบ้าง🐰


1.กระต่ายไทย
เป็นกระต่ายพื้นบ้านของประเทศไทยคับ ลักษณะตัวใหญ่ มีหลากหลายสี ว่องไวปราดเปรียว หูยาว หน้าค่อนข้างจะกลม มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง สามารถกระโดดได้สูง

กระต่ายไทย
2.นิวซีแลนด์ ไวท์ แรบบิท
เป็นกระต่ายพื้นเมืองของประเทศนิวซีแลนด์ ลักษณะตัวใหญ่กว่ากระต่ายไทย มีขนสีขาวจนถึงเหลืองอ่อนๆ หูยาว ตาแดง มีลักษณะลำตัวอ้วนตัน ใช้สำหรับเป็นอาหารและการทดลอง

กระต่ายนิวซีแลนด์ ไวท์
3.ไลอ้อนเฮดท์
เป็นกระต่ายที่ตัวใหญ่ มีขนเป็นแผงคอจึงทำให้ดูเหมือนสิงโต ตัวอ้วน น้ำหนักมาก มีหลายสี

ไลอ้อนเฮดท์
4.เท็ดดี้แบร์
เป็นกระต่ายที่มีขนาดกลางๆ มีขนฟูทั่วตัว ดูเเล้วน่ารัก มีหลากหลายสี พบได้ง่ายในท้องตลาด

เท็ดดี้แบร์
5.วู๊ดดี้ทอย
เป็นกระต่ายขนาดค่อนข้างเล็ก มีขนนุ่มๆฟูๆกระจายไปทั่วตัว คล้ายๆเท็ดดี้แบร์ แต่จะตัวเล็กกว่า มีหลายสี อาจหาได้ยากกว่าเท็ดดี้แบร์

วู๊ดดี้ทอย

6.เจอร์รี่วู๊ดดี้ทอย
เป็นกระต่ายพันธุ์ผสม มีขนนุ่ม ฟูไปทั่วตัว ตัวเล็ก มีหลากหลายสี ราคาค่อนข้างสูง และหาได้ยากตามท้องตลาด



                                                                   เจอร์รี่วู๊ดดี้ทอย



7.มินิล็อป
เป็นกระต่ายหูตกชนิดหนึ่ง มีขนาดกลางๆ ลำตัวค่อนข้างอ้วนกลม ขนจะยาว หาเจอได้ง่ายตามตลาด


มินิล็อป
8.ฮอลแลนด์ล็อป
กระต่ายหูตกอีกชนิดหนึ่ง ราคาค่อนข้างสูง มักมีแต่สีพื้นๆ มีขนาดเล็กกว่ามินิล็อป ดูเเล้วหน้ากลมน่ารัก


ฮอลแลนด์ล็อป
9.เฟรนซ์ล็อป
เป็นกระต่ายหูตกพันธุ์ใหญ่ที่สุด ลำตัวอ้วน ตัน ตัวใหญ่มากๆ หาได้ยากในเมืองไทย


เฟรนซ์ล็อป
10.อิงลิซล็อป
กระต่ายหูตกที่ดังที่สุดในอังกฤษ ในประเทศไทยต้องสั่งนำเข้ามาเท่านั้น หูจะยาวกว่าลำตัว ขนจะสั้นเกรียนไปทั่วทั้งตัว

อิงลิซล็อป

11.ดัชต์
เป็นกระต่ายพันธุ์กลางๆอีกชนิดหนึ่ง ขนสั้น ลำตัวเปรียว ราคาก็ค่อนข้างสูง หูจะยาว กระโดดได้สูง


ดัชต์
12.มินิเร็กซ์
เป็นกระต่ายใหญ่ มีขนแบบกำมะหยี่ ราคาค่อนข้างสูง ลำตัวยาว เปรียว วิ่งเร็ว


มินิเร็กซ์
13.โปลิส
มีต้นกำเนิดที่เบลเยี่ยม หูสั้น ปลายหูชนกัน ตัวเล็ก ราคาค่อนข้างสูง


โปลิส
14.เนเธอร์แลนด์ดรอฟ
เป็นกระต่ายพันธุ์ผสมระหว่างกระต่ายแคระกับกระต่ายเนเธอร์แลนด์ มีขนาดเล็กที่สุด หูสั้น ตัวอ้วน แต่เปรียว ราคาแพง แต่เป้นที่นิยม หัวจะกลมหน้าจะสั้น

เนเธอร์แลนด์ดรอฟ

สายพันธุ์สุนัข

                     10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

(3)Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”
     การเลี้ยงน้องหมาสักตัวคือการรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิต ซึ่งเป็นชีวิตเล็กๆ ที่เราต้องดูแลเขาในฐานะอีกหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว การเลือกน้องหมาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงมาก่อน ควรเลือกดูสายพันธุ์น้องหมาที่มีพฤติกรรมไม่ก้าวร้าว ว่าง่าย อารมณ์ดี  ที่สำคัญเชื่อฟังเจ้าของค่ะ
     บทความนี้จึงได้นำข้อมูลที่สัตวแพทย์ในอเมริกาต่างลงความเห็นจัดอันดับน้องหมาที่เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่มาให้รู้กัน ... ว่าแต่จะมีสายพันธุ์ใดบ้างกันดูกันค่ะ 


อันดับ 10 ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     ไม่น่าแปลกใจที่สายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่มีน้องหมาติดอันดับน่ารักมากที่สุดอย่าง Boo จะติดเป็น 1 ใน 10 ก็เพราะพวกเขาเป็นน้องหมาที่ฉลาด หลักแหลม ติดเจ้าของ ช่างประจบเอาใจ เชื่อฟังคำสั่ง ฝึกได้ง่าย ร่าเริงแจ่มใส และ ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อยู่ในที่แคบได้ พกพาไปที่ต่างๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะปากเปราะ เห่าเก่งขี้ระแวงมากไปสักหน่อย เพราะด้วยความเป็นน้องหมาที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงจึงค่อนข้างลืมตัวว่าตัวเล็ก จึงเห่า ขู่ น้องหมาตัวใหญ่กว่า อย่างกล้าหาญไม่เกรงกลัว พาลให้ถูกไล่กัด หรือ ถูกทำร้ายได้ค่ะ

     เรื่องการดูแล ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนไม่ติดสังกะตาง และผลัดขนเก่า อาบน้ำ 2 สัปดาห์ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าตัดให้ขนสั้นก็จะยิ่งดูแลง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะมีโรคประจำสายพันธุ์ เช่นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับข้อกระดูกต่างๆ และดวงตา จึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ หรือถ้ามีอาการใดผิดปกติควรพาไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ  
  

อันดับ 9 ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     น้องหมายอร์คเชียร์ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ขึ้นแท่นเป็นน้องหมาตัวเล็กที่สุดในโลกอยู่หลายสมัย พวกเขามีนิสัยขี้เล่น ฉลาด ซุกซน เชื่อมั่นในตัวเองสูง รักเจ้าของที่เหมาะกับผู้เลี้ยงน้องหมามือใหม่ ที่ชอบน้องหมาเชื่อง ดูแลง่าย มีพื้นที่ในการเลี้ยงน้อย อยู่นิ่งๆ ในกระเป๋าได้นาน  พาไปไหนมาไหนสะดวก แล้วก็คลายเหงาได้อีกด้วย พวกเขาจะอยู่คลอเคลียกันเจ้าของไม่ห่าง ใครชอบให้เอาใจ เลี้ยงยอร์คเชียร์ไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ แต่พวกเขาเป็นน้องหมาปากเปราะ ชอบเห่าเรียกเจ้าของให้มาสนใจ พวกเขาจึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกวินัยอย่างเข้มงวดค่ะ 
     น้องหมายอร์คเชียร์มีขนยาวแต่ชั้นเดียวจึงไม่ค่อยผลัดขน อาบน้ำ2 ครั้งต่อเดือน หรือ ถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็สามารถอาบได้เดือนละครั้งค่ะ เน้นที่การแปรงขนเป็นประจำทุกวันไม่ให้เป็นสังกะตัง ผูดจุกติดโบว์น่ารักๆ เพื่อไม่ให้ขนแทงตาก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ยุ่งยากเลย ส่วนเรื่องสุขภาพอาจจะต้องดูแลเรื่องข้อกระดูกขา ไม่ควรให้เดิน หรือ วิ่งเล่นบนพื้นลื่นๆ และก็ระวังเรื่องโรคหัวใจ เป็นพิเศษค่ะ
    
อันดับ 8 มอลทีส

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     น้องหมาตัวเล็กขนยาวขาวผ่องเป็นแพรไหมพันธุ์นี้ มีความร่าเริงสดใส ดูเหมือนน้องหมาเด็กอยู่ตลอดเวลา เหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ ไม่มีเปลี่ยนแปลงแม้จะย่างเข้าสู่วัยชรา มอลทีสมีเป็นน้องหมาที่เชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี อยู่นิ่งได้นาน อ่อนโยน เป็นมิตรทั้งกับเด็กและคนแปลกหน้า ควบคุมง่าย พาไปไหนมาไหนสะดวก  แถมขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ ติดเจ้าของอีกต่างหาก จะไม่ให้ตกหลุมรักได้อย่างไร >///<
     ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก เนื่องจากเป็นน้องหมาขนยาวตรงสลวย การแปรงขนเป็นประจำทุกวันไม่ให้เป็นสังกะตาง อาบน้ำสองสัปดาห์ครั้งก็เพียงพอค่ะ แต่เนื่องจากพวกเขามีผิวหนังที่อ่อนบาง เป็นผื่นแพ้ง่าย จำเป็นต้องเลือกแชมพูที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และ เป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้งค่ะ นอกจากนี้ ควรระวังโรคเกี่ยวกับฟัน และ ปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหารให้มากเป็นพิเศษ  ผู้เลี้ยงควรศึกษาวิธีการดูแลพวกเขาอย่างถูกวิธี ให้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ให้อยู่ในที่เปียกชื้น และ พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำค่ะ

อันดับ 7  ชิสุ 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     อีกหนึ่งสายพันธุ์ยอดฮิต  เลี้ยงง่าย ขวัญใจผู้สูงอายุต้องยกให้ ชิสุ เลยค่ะ ด้วยนิสัยร่าเริงสดใส ชอบอยู่นิ่งๆ บนตักหรืออยู่ใกล้ๆ เจ้าของ ขี้ประจบ ไม่ค่อยซุกซนหนีหายไปไหน อยู่ได้ในพื้นที่จำกัด จงรักภักดี ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ สามารถเห่าเตือนภัยเฝ้าบ้านได้ ที่สำคัญสุขภาพแข็งแรง อายุยืน หากได้รับการดูแลป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาก็ไม่ค่อยพบปัญหาอะไรให้หนักใจเลยล่ะค่ะ 

     การทำความสะอาดก็ไม่ยาก เน้นที่การแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำอย่างมาก 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง ส่วนเรื่องระเบียบวินัย พวกเขาไม่ค่อยมีปัญหาสร้างความเดือดร้อน หรือ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเกินควบคุม อาจจะหวงตัวบ้าง ไม่ชอบให้จู้จี้จุกจิก แต่ถ้าได้รับการฝึกอย่างดี พาไปออกสังคมบ่อยๆ ก็สามารถเป็นได้ถึงน้องหมานักบำบัดเลยล่ะค่ะ น่าเลี้ยงมากๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุดฮิตตลอดกาล

อันดับ 6  บอสตัน เทอร์เรีย 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     บอสตัน เทอร์เรียเคยเป็นน้องหมาที่นิยมเลี้ยงมาก่อนในเมืองไทย แต่ก็ถูกน้องหมารุ่นน้องอย่างเฟรนช์ บูลด็อกที่ดูเผินๆ ละม้ายคล้ายกัน มาแซงความนิยมไปในช่วงปี สองปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยนิสัยและการเลี้ยงดูของบอสตัน เทอร์เรียค่อนข้างเลี้ยงดูง่ายกว่า ด้วยสรีระที่ปราดเปรียว ไม่เทอะทะ หน้าดูหักทู้ แต่ไม่สั้นจนยากต่อการดูแลเรื่องการกินอาหาร การดื่มน้ำ และระบบทางเดินหายใจ พวกเขาเป็นน้องหมาที่นิยมเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา มีขนาดกระทัดรัด ไม่เล็กจนเกินไป มีความแข็งแรง สุขภาพดี ฉลาด ร่าเริง รักครอบครัว เชื่อฟังคำสั่ง คล่องแคล่ว ชอบอยู่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ไฮเปอร์ ไม่ซุกซน เฝ้าบ้านได้อย่างดีค่ะ  
     สำหรับการดูแลทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอะไรนัก เพราะขนสั้นเกรียน อาบน้ำ สองสัปดาห์ครั้ง แปรงขนเพื่อผลัดขนเก่าเป็นประจำทุกวัน เน้นทำความสะอาดรอบใบหน้าที่ย่น ดวงตาและ ช่องหูค่ะ พวกเขามีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตา ควรสังเกตความผิดปกติ หากพบควรพาไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีค่ะ

 อันดับ 5 บิชอง ฟริเซ่
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     บิชอง ฟริเซ่น้องหมาขนฟูฟ่องขาวผ่องเป็นขนมสายไหม ค่อนข้างเป็นสายพันธุ์ใหม่สำหรับบ้านเรา ยังไม่พบแพร่หลาย หรือหลายคนอาจเคยพบเห็น แต่คิดว่าเป็นน้องหมาพุดเดิ้ล นั่นเพราะพวกเขามีบรรพบุรุษมาจากที่เดียวกัน เพียงแต่บิชอง ฟริเซ่จะมีแต่ขนสีขาวสะอาด หรือไม่ก็สีขาวอมครีมอ่อนๆ เท่านั้นไม่มีสีอื่นค่ะ พวกเขามีขนหยิก ฟูพอง ตัดเล็มเป็นลูกบอลกลมๆ น่ารักมากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องนิสัย บริชอง ฟริเซ่ค่อนข้างจะเป็นน้องหมาที่จิตใจอ่อนโยน ใจดี  รักเจ้าของ รักคนแปลกหน้า รักไปเกือบทุกอย่าง อารมณ์ดี แฮปปี้ตลอดเวลา พลังงานสูงใช่ย่อย แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาเสียใจ เหงา รู้สึกถูกทอดทิ้งก็จะเจ็บปวดถึงขั้นซึมเศร้า ดังนั้น การให้ความรัก การเอาใจใส่ หากิจกรรมทำร่วมกับครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่สำหรับสำหรับพวกเขาอย่างมากค่ะ   

     บิชอง ฟริเซ่เป็นน้องหมาผิวแพ้ง่าย ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว เป่าขนให้แห้งหลังจากอาบน้ำทุกครั้ง และแปรงขนเป็นประจำทุกวันจะได้ไม่เป็นสังกะตางค่ะ การออกกำลังกายก็จำเป็นเช่นเดียวกับน้องหมาทุกตัว ส่วนโรคประจำสายพันธุ์ที่ต้องระวังก็เช่น โรคเกี่ยวกับกระดูก ต้อกระจก หูติดเชื้อ แต่ถ้าดูแลอย่างดี ให้อาหารถูกหลักอนามัย ก็ไม่มีปัญหาอะไร อายุยืนอยู่เป็นเพื่อนยาวนานค่ะ ^^
อันดับ 4  คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล มีลักษณะนิสัยและรูปร่างคล้ายกับค็อกเกอร์ สเปเนียล (ซึ่งก็เหมาะกับมือใหม่เช่นกันค่ะ) พวกเขาเป็นน้องหมาหน้าตาน่ารัก ดูมีสง่าราศี ขนยาวหยักศกสวยงาม นิสัยอ่อนโยน อ่อนหวาน มีความรักให้กับเจ้าของ เด็กๆ และคนแปลกหน้า ไม่ก้าวร้าว  เงียบสงบ เรียบร้อย ไม่เรื่องมาก (อาจดื้อเงียบนิดหน่อย) พาไปไหนมาไหน ได้ไม่มีปัญหา ชอบอยู่เคียงกายเจ้าของ ช่างประจบเอาใจเหมาะกับเป็นน้องหมาบำบัดอีกด้วย 
     การดูแลเรื่องขน ช่องหูเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับน้องหมาขนยาว หูยาวอย่างคาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์  เป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง ตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาเป็นประจำ หากมีความผิดปกติควรพาไปหาสัตวแพทย์ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ค่ะ เนื่องจากพวกเขามีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตาและช่องหู จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะ

อันดับ 3  ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์  

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     หลังจากที่มีแต่น้องหมาพันธ์เล็กติดโผ มาตลอด ก็มาถึงน้องหมาพันธุ์ใหญ่ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่คนรักน้องหมาพันธุ์ใหญ่(ใจดี) คนพิการ และ หน่วยกู้ภัยนิยมเลี้ยง เพราะความเป็นมิตร เข้ากับเด็กๆ ได้ดี เชื่อฟังคำสั่ง ไม่แสดงอำนาจเหนือ บุกลุยได้ทุกสถานการณ์ ดูคล่องตัว รักและช่างประจบเจ้าของ เฝ้าบ้านก็ได้ ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขายังคงเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่หลายครอบครัวทั่วโลกเลือกเลี้ยงตลอดมาหลายสิบปี ไม่มีตกเทรนด์
     ด้านสุขภาพ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเกี่ยวกับข้อต่อต่างๆ รวมทั้งโรคกระดูกสะโพกเคลื่อน ควรควบคุม ดูแลเรื่องอาหารการกิน พาไปออกกำลังเป็นประจำทุกวัน ตรวจเชคสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ พวกเขารักการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การมีเวลาอยู่กับพวกเขา จะช่วยเพิ่มพูนความสุขให้ทั้งกายและใจค่ะ ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก คววรแปรงขนเป็นประจำทุกวันเพื่อผลัดขน อาบน้ำ เดือนละ 2 ครั้งกำลังดีค่ะ

อันดับ 2  พุดเดิ้ล   


Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     หากมีการจัดอันดับน้องหมาในด้านดี ไม่ว่าจะประเภทไหน สถานบันใด พุดเดิ้ลขอติดอันดับ กวาดเรียบแทบทุกสถาบันค่ะ ไม่ว่าจะน้องหมาที่ฉลาดที่สุด น้องหมาที่อายุยืนที่สุด น้องหมาที่เห่าเฝ้าบ้านได้ดีที่สุด น้องหมาที่เลี้ยงง่ายมากที่สุด น้องหมานิสัยดีมากที่สุด น้องหมาที่โรคน้อยที่สุด ... มีดีขนาดนี้ คุณสัตวแพทย์ทั้งหลายจะไม่เทคะแนน เทใจให้แก่พุดเดิ้ลได้อย่างไร ซึ่งข้อดีที่มากมายสาธยายไม่หมดของพุดเดิ้ลทำให้เกิดการนำน้องหมาสายพันธุ์นี้ไปผสมกับสายพันธุ์อื่นๆ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ที่มีสุขภาพยอดเยี่ยม นิสัยดีไม่มีที่ติ เช่น สายพันธุ์ พันธุ์โกลเดนดูเดิ้ล (Goldendoodle), พันธุ์ ค็อกกาพู (Cockapoo), พันธุ์ลาบราดูเดิ้ล (Labradoodle) เป็นต้นค่ะ (ถ้าอยากรู้ว่าเป็นพันธุ์ไหนผสมกับพุดเดิ้ล ท้ายบทความพริกมีเฉลยค่ะ)
     เรื่องสุขภาพของพุดเดิ้ล ไม่ค่อยมีเรื่องน่าห่วง อาจจะมีโรคเกี่ยวกับดวงตา และโรคเกี่ยวกับผิวหนังที่เป็นโรคประจำสายพันธุ์ การพาไปตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยง และเตรียมตัวป้องกัน ดูแลอย่างถูกวิธีเท่านี้น้องพุดเดิ้ลก็อยู่กับเราได้ไปนานเกิน 20 ปีค่ะ
  

อันดับ 1  โกลเดน รีทรีฟเวอร์ 


Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     แต่น แตน แต้นนนนน!  อันดับ 1 คือ น้องหมาพันธุ์ใหญ่ ยิ้มเก่ง โลกสวยตลอดกาล โกลเดน รีทรีฟเวอร์ นั่นเอง สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้โกลเดน ครองใจเหล่าสัตวแพทย์ ก็เพราะ ความฉลาด นิสัยที่ว่านอนสอนง่าย อ่อนโยน เข้ากับเจ้าของได้ง่าย เป็นมิตร รักเด็ก อยู่กับคนสูงอายุก็ไม่มีปัญหา ร่าเริง แจ่มใส ประจบเอาใจครอบครัว สามารถเห่าเตือนภัยได้ แต่ไม่ก้าวร้าว ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย เชื่อฟังคำสั่งได้เป็นอย่างดี โกลเดน รีทรีฟเวอร์เพอร์เฟ็คมากๆ สำหรับคนที่เริ่มเลี้ยงสุนัข และต้องการเปิดโลกทำความรู้จักมิตรภาพ การแบ่งปันความรักร่วมกับน้องหมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์  
     อย่างไรก็ตาม การดูแลเรื่องสุขภาพให้แก่โกลเดน รีทรีฟเวอร์ก็เป็นรื่องที่มองข้ามไม่ได้ พวกเขาผิวแพ้ง่าย ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน แปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำทุกสัปดาห์ หรือ ถ้าไม่สกปรกมาก เดือนละ 2 ครั้งก็ได้ค่ะ ควรพาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวกับกระดูก  ข้อสะโพก เรื่องดวงตาก็ต้องคอยดูเป็นพิเศษเช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ สามารถดูแลเรื่องสุขภาพกายให้แข็งแรงอยู่เสมอได้ โกลเดน รีทรีฟเวอร์จะกลายเป็นน้องหมาชั้นเยี่ยมสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่และมือเก่าได้อย่างแน่นอนค่ะ
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

     นอกจากน้องหมา 10 สายพันธุ์ทื่พริกบอกเพื่อนๆ ไปแล้ว กลุ่มสัตวแพทย์ในสหรัฐอเมริกายังมีความคิดเห็นด้วยว่าน้องหมาที่มีการนำมาออกแบบน้องหมาผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้น้องหมาที่นิสัยดี สุขภาพแข็งแรง อย่าง พันธุ์โกลเดนดูเดิ้ล (Goldendoodle) ที่ผสมระหว่าง โกลเดน รีทรีฟเวอร์ กับพุดเดิ้ล, พันธุ์ ค็อกาพู (Cockapoo) ผสมระหว่างค็อกเกอร์ สเปเนียล กับ พุดเดิ้ล, พันธุ์ลาบราดูเดิ้ล (Labradoodle) ผสมระหว่างลาบราดอร์ กับพุดเดิ้ล, พันธุ์ ปั๊กเกิล (Puggle) ที่เกิดจากการผสมกันระหว่างปั๊ก กับ บีเกิล ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ เพราะทั้งเลี้ยงง่าย โรคประจำสายพันธุ์น้อยลง อายุยืนขึ้น แต่ก็อาจจะไม่ได้สวยงามหน้าตาดีอย่างสายพันธุ์แท้เท่านั้นเอง (ส่วนน้องหมาพันธุ์ผสม พันทาง พันธุ์ไทยอย่างบ้านเราก็เลี้ยงง่ายไม่ต่างกัน ใครนิยมของไทยอย่างพริก ก็หาเลี้ยงได้ค่ะ โรคไม่ค่อยมี สุขภาพดี กินอยู่ง่าย เฝ้าบ้านได้อีกด้วย ^^)


Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

      เป็นอย่างไรคะ โฉมหน้าน้องหมาที่เลี้ยงง่าย เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่ มีใครเลี้ยงพันธุ์ไหนกันบ้างก็สามารถแบ่งปันประสบการณ์การได้นะคะว่าเลี้ยงง่ายมากน้อยขนาดไหน หรือสร้างวีรกรรมอะไรกันบ้าง เพราะถึงน้องหมาเหล่านี้จะเลี้ยงง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยเฉพาะของแต่ละตัว การเลี้ยงดู สุขภาพร่างกาย โรคประจำตัว และสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ ใช่ว่าจะเลี้ยงแล้วแฮปปี้กันทุกคนที่เลี้ยง ดังนั้นการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยปะละเลยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับน้องหมาทุกตัวค่ะ 




 กระแสฮิตเจ้าเหมียวสี่ขาเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่เปิดขึ้นมาเมื่อไรเป็นต้องเจอรูปถ่ายหน้ากลม ๆ ของเจ้าเหมียว พร้อมทั้งอิริยาบถต่าง ๆ อยู่ร่ำไป แถมบางครั้งเจ้าของก็ยังบรรยายความน่ารักให้ได้อ่านกันอีกด้วย แน่นอนว่า เมื่อได้เห็นดวงตากลมโตแสนบ้องแบ๊วคู่นั้น คงอดไม่ได้ที่จะหลงรักและอยากครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ถ้าคุณคิดจะซื้อแมวมา เลี้ยงเอาไว้ที่บ้านสักตัวสองตัวแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจจนกว่าจะได้ศึกษานิสัยใจคอของแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงวิธีการเลี้ยงดู โดยลองเปรียบเทียบจาก 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย ดังต่อไปนี้

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

1. แมวเปอร์เซีย (Persian)

          ราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน แมวเปอร์เซียถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวก็เพราะว่า นอกจากจะมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว ขนปุกปุยของแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็น่ารักด้วย

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเปอร์เซีย

          แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา

          นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความร่าเริงซุกซน ปีนป่ายไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อหาของมากัดเล่น ช่างประจบประแจง และเป็นแมวที่มีไหวพริบมากทีเดียว

          
 การเลี้ยงดูแมวเปอร์เซีย


          เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยการแปรงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค รวมทั้งพยาธิต่าง ๆ ที่จะเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

          ส่วนในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนไปรวมตัวกันในช่องท้อง จะทำให้แมวเปอร์เซียมีอาการสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้

      
10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย
10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 2. แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)

         แมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา เมื่อสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยพวกเขาได้นำแมวอเมริกันชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นแมวพื้นเมืองขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุด

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์


         สำหรับรูปร่างของแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มองเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ใบหูมีขอบเป็นทรงกลมมน ส่วนหัวมีลักษณะรูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นสีเขียวมรกต มีลักษณะสีขน และรูปร่างมากกว่า 80 แบบ

         ส่วนอุปนิสัยของอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ พบว่า เป็นแมวที่ช่างสงสัย นิสัยร่าเริง ชอบเล่น มีเสน่ห์ แต่จะฝึกค่อนข้างยาก ดังนั้นหากเป็นไปได้ เจ้าของควรจะคลุกคลีและอยู่กับแมวให้มาก ๆ

           
 การเลี้ยงดูแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์

         ปัญหาของแมวพันธุ์อเมริกันขนสั้นส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อราและเป็นหวัดง่าย ถ้าหากเจ้าของให้การดูแลไม่ดีก็จะเลี้ยงลำบาก ฉะนั้นเจ้าของควรพาแมวไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนเป็นประจำ ส่วนปัญหาเรื่องขนร่วงมีน้อยมาก โดยจะร่วงเฉพาะในช่วงเวลาผลัดขนปีละ 2 ครั้งเท่านั้น



 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 3. แมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)

          Susie เป็นแมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1961 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะของ Susie มีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งหลังจากที่ Susie ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง หลังจากที่ลูกแมวตัวนั้นโตขึ้น จึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966

           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวสก็อตติช โฟลด์


          แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบขนสั้นกับแบบขนยาว โดยทั้ง 2 แบบจะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ และมีหูตั้งตรงขนาดกลาง ไปจนถึงหูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3  อาทิตย์แรก จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของสมญานามว่า Smiling Cat หรือ แมวยิ้ม นั่นเอง

          แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง และชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่น เฉพาะเวลาที่มีเจ้าของมาร่วมเล่นด้วย บางตัวอาจไม่ชอบนอนบนตัก โดยเลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ กับเจ้าของแทน

          
 การเลี้ยงดูแมวสก็อตติช โฟลด์

         การดูแลแมวสก็อตติช โฟลด์ ค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับแบบขนสั้น แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้นหากเลือกที่จะเลี้ยงแบบขนยาว โดยเฉพาะบริเวณใบหูของแมว ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้ง พอ ๆ กับการแปรงขน และโดยทั่วไป แมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่มีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเป็นห่วงนัก


10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย
 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 4. แมววิเชียรมาศ (Siamese)

          แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือ แมวสยาม หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดแมวไทยอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานสมุดข่อยได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศ จะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวลาภ อีกทั้งในอดีตยังเป็นแมวที่เลี้ยงกันในวังเป็นส่วนใหญ่ด้วย

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมววิเชียรมาศ

         เนื่องจากแมววิเชียรมาศเป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้ม 9 จุดอยู่บนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ดังนั้นจึงถูกคนเข้าใจผิดบ่อย ๆ ว่า เป็นแมวเก้าแต้ม แต่ที่จริงแล้ว แมวเก้าแต้มเป็นชื่อของแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

         ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนำแมววิเชียรมาศไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม ก็จะได้สีแต้มตามแบบ แต่แตกต่างกันในเรื่องของรูปร่างและอุปนิสัย อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น สีแต้มก็จะเข้มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อาจจะมีสีแต้มที่แปลกแยกออกไป เช่น แต้มสีเทา สีแดง และสีกลีบบัว

          ส่วนอุปนิสัยของแมววิเชียรมาศก็คล้ายคลึงกับแมวไทยทั่วไป คือ มีความฉลาด คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สุภาพเรียบร้อย แม้ว่าภายนอกของแมววิเชียรมาศจะดูรักสันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ดังนั้นมันจึงเป็นแมวขี้อ้อน ประจบประแจงเก่ง

           
 การเลี้ยงดูแมววิเชียรมาศ

          ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ การเลี้ยงแมวในบ้าน แมวจะชอบขับถ่ายในที่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นจุดอับ หากต้องการให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ควรเตรียมกระบะทรายไว้ในบ้านด้วย แต่ที่ต้องระวังคือแมวตัวผู้ที่โตแล้ว มักจะขับถ่ายไม่เลือกที่



10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 5. แมวโคราช (Korat)


          แมวพันธุ์นี้มีชื่อเรียกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แมวมาเลศ แมวดอกเลา หรือแมวสีสวาด เป็นหนึ่งใน 17 แมวมงคลของไทย ที่ได้รับพระราชทานชื่อมาจาก สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 ตามแหล่งกำเนิดของแมวพันธุ์นี้ ซึ่งพบใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชื่อเสียงของแมวโคราชโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากชนะเลิศงานประกวดประจำปีที่สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1966

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวโคราช


          ลักษณะของแมวโคราชจะมีขนเรียบ โคนขนสีเทาขุ่น ๆ ส่วนปลายขนเป็นสีเงินประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว หรือผมหงอก และเป็นสีเช่นนี้ตลอดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายหาง สำหรับใบหน้าหากมองดูจากด้านหน้าจะเห็นเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ สำหรับแมวตัวผู้บริเวณหน้าผากจะมีรอยหยักทำให้เห็นเป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปาก จะเป็นสีเงินหรือม่วงอ่อน

          
 การเลี้ยงดูแมวโคราช


          โดยปกติแล้วแมวโคราชจะมีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 ปี ซึ่งวิธีการดูแลเหมือนแมวไทยทั่วไป แต่ควรใส่ใจเรื่องการถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน 3 ชนิดต่อปีให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบไปด้วย วัคซีนป้องกันหัดแมว ลูคีเมีย และพิษสุนัขบ้า

   

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 6. แมวขาวมณี (Khao Manee)


         สำหรับแมวขาวมณีไม่มีหลักฐานยืนยันที่มาอย่างชัดเจน รู้เพียงว่า เริ่มพบเห็นมากในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแมวที่ติดมากับเรือสำเภาของพ่อค้าจีน ที่เลี้ยงไว้จับหนูบนเรือ แต่เนื่องจากสีขาวเป็นสีที่ดูสะอาดและเป็นสีมงคลสำหรับคนไทย ดังนั้นแมวขาวมณีจึงกลายเป็นแมวบ้านนับจากนั้นเป็นต้นมา และที่สำคัญแมวพันธุ์นี้ยังเป็นแมวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดปรานเป็นพิเศษด้วย

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวขาวมณี


          เอกลักษณ์ของแมวขาวมณี นอกจากจะมีขนสีขาวปลอดทั่วทั้งตัวแล้ว นัยน์ตาทั้ง 2 ข้างของแมวขาวมณียังแตกต่างไปจากแมวไทยพันธุ์อื่น โดยมีทั้งนัยน์ตาสีฟ้า สีเหลืองอำพัน และตา 2 สี ลักษณะมาตรฐานของแมวขาวมณี หัวจะต้องกลมใหญ่คล้ายรูปหัวใจ จมูกสั้น หูตั้งใหญ่ โคนหางใหญ่ แต่มีปลายแหลมชี้ตรง และต้องเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ส่วนเสน่ห์ของแมวขาวมณีนั้น นอกจากขนสีขาวเนียนสนิท มันยังเป็นแมวที่ช่างประจบประแจง ขี้อ้อน ชอบเข้ามาคลอเคลีย และจะคอยสังเกตเจ้าของตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม

          
 การเลี้ยงดูแมวขาวมณี

          ส่วนมากมักจะนิยมเลี้ยงแมวขาวมณีแบบเป็นคู่ เพื่อให้พวกมันพลัดกันเลียขนเพื่อทำความสะอาด แมวพันธุ์นี้เป็นแมวเชื่อง และเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของ จึงเหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้ดีเลยทีเดียว



 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 7. แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ (British Shorthair)

          แมวท้องถิ่นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่งเล่ากันว่าบรรพบุรุษของพวกมันมาจากแมวที่ชาวโรมันเอามาเลี้ยงเมื่อ 2,000 ปีก่อน และเป็นแมวที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศต้นกำเนิดและประเทศอื่น ๆ แถบยุโรปจนถึงยุคปัจจุบัน เนื่องจากมันเป็นแมวที่มีความเฉลียวฉลาด จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ฝึกสัตว์ เพื่อใช้ในการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือเข้าฉากในภาพยนตร์ของฮอลลีวูด

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวบริติช ชอร์ตแฮร์


         แมวบริติช ชอร์ตแฮร์ เป็นแมวที่มีลักษณะกะทัดรัด สมดุลดี แข็งแรง หน้าอกเต็มและกว้าง ขาสั้น อุ้งเท้ากลม หางหนาและกลม หัวกลมรับกับใบหูขนาดเล็ก คอสั้น แก้มยุ้ย คางหนา ดวงตากลมโต จมูกค่อนข้างสั้น ขนหนาและสั้น มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี

         ส่วนอุปนิสัยของแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างนิ่งสงบกว่าแมวพันธุ์อื่น ๆ เดาทางได้ง่าย เนื่องเป็นมิตรกับผู้คนรวมถึงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ค่อยพบเห็นแมวสายพันธุ์นี้ส่งเสียงรบกวน แสดงอาการก้าวร้าว หรือทำลายสิ่งของให้เห็น

          
 การเลี้ยงดูแมวบริติช ชอร์ตแฮร์


         แมวบริติช ชอร์ตแฮร์เป็นแมวที่ดูแลง่าย แต่ควรเลี้ยงในบ้าน นอกจากนี้บริติช ชอร์ตแฮร์ อาจเป็นแมวที่มีพัฒนาการการเจริญเติบโตช้าอยู่สักหน่อย แต่ความสมบูรณ์และความสวยงามของมันจะอยู่คู่กับแมวไปตลอดเกือบชั่วอายุขัยเลยทีเดียว

10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 8. แมวเอ็กโซติก (Exotic)

          แมวหน้าบูด จมูกหัก แต่น่ารักไม่แพ้ใคร เพราะสืบเชื้อสายมาจากแมว 2 สายพันธุ์ ระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ จนกลายมาเป็นแมวเอ็กโซติก หลากหลายรูปแบบ อาทิ  Exotic Blue Tabby, Exotic Red Tabby, Exotic Cream Tabby เป็นต้น

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเอ็กโซติก

          ลักษณะทั่วไปของแมวเอ็กโซติกเหมือนกับแมวเปอร์เซียทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหัวกลม กะโหลกใหญ่ ใบหูเล็กกลม จมูกหักเล็กน้อย ยกเว้นเส้นขนสั้น ๆ ที่หนานุ่มคล้ายกับกำมะหยี่ อันเป็นสัญลักษณ์ของแมวสายพันธุ์นี้

          ส่วนเรื่องอุปนิสัยก็แทบไม่มีแตกต่างจากแมวเปอร์เซียเลย เพราะแมวเอ็กโซติกเป็นแมวที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ไม่ค่อยหงุดหงิด และมีความอดทนสูง ดังนั้นคุณแทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องของแมวพันธุ์นี้แน่นอน หากมันต้องการความสนใจขึ้นมา ก็จะทำแค่นั่งอยู่หน้าคุณ กระโดดมานั่งบนตัก หรือเอาจมูกชื้น ๆ ของมันมาแตะที่หน้าคุณเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่า แมวพันธุ์เอ็กโซติกบางตัวอาจจะชอบนั่งอยู่บนไหล่และกอดคุณเวลาคุณเล่นด้วย

          
 การเลี้ยงดูแมวเอ็กโซติก


          ใครที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลขน แมวพันธุ์เอ็กโซติกก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมันเป็นแมวที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ในบ้าน ที่สำคัญขนอันสวยงามของแมวพันธุ์นี้ ยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าแมวเปอร์เซียทั่ว ๆ ไป เพราะไม่ค่อยจับตัวเป็นก้อนหรือพันกันยุ่งเหยิงอีกด้วย


10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย


 9. แมวเมนคูน (Main Coon)

          ถึงแม้แมวเมนคูนจะมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าแมวปกติ แต่มันกลับเป็นพี่ใหญ่ใจดี จนได้รับสมญานามว่า Gentel Giant ชื่อของแมวสายพันธุ์นี้ มีที่มาจากรัฐเมน (Maine) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมัน ส่วนคำว่า คูน (Coon) มาจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่กล่าวว่า แมวบ้านเผลอไปกุ๊กกิ๊กกับตัวแรคคูน (Raccoon) จนมีการจับ 2 คำนี้มารวมกัน กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า เมนคูน (Main Coon)

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเมนคูน


          ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์เมนคูน คือ รูปร่างที่สมส่วน ดูสง่างาม และให้ความรู้สึกที่มั่นคงแข็งแรง หากเป็นแมวโตเต็มที่ ร่างกายของมันจะมีความยาวตั้งแต่หัวจรดปลายหางประมาณ 1 เมตร น้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 12-15 กิโลกรัม ถึงแมวเมนคูนจะมีโครงสร้างใหญ่ ใบหน้าเหมือนกับแมวป่า มีแผงคอคล้ายสิงโต แถมบริเวณปลายหูยังมีเส้นขนงอกออกมา แต่มันกลับมีนิสัยขี้อ้อน ขี้เล่น ร่าเริง ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์

           
 การเลี้ยงดูแมวเมนคูน


          อายุขัยของแมวพันธุ์อยู่ที่ราว ๆ 15 ปี เหมือนแมวทั่วไป แต่เนื่องจากร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่โต การให้อาหารแบบแมวทั่วไปอาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ดังนั้นเจ้าของควรเสริมด้วยเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับมัน

          ส่วนขนของแมวเมนคูนค่อนข้างหวีง่าย เนื่องจากเป็นแมวกึ่งขนยาว จึงไม่มีปัญหาขนพันกันแบบแมวเปอร์เซีย เพียงแต่ควรจะอาบน้ำให้มันอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และหลังการอาบน้ำทุกครั้ง ควรจะเช็ดพร้อมกับเป่าขนให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันโรคเชื้อราบนผิวหนัง



10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10 สายพันธุ์แมวยอดนิยมในไทย

 10. แมวเบงกอล (Bengal)

          แมวเบงกอลเป็นแมวที่มีลวดลายสวยงาม คล้ายลูกเสือดาวตัวน้อย ๆ คาดกันว่า แมวเบงกอลเกิดจาการผสมพันธุ์ระหว่างแมวดาวกับแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์เชียนมัวร์ (Egyptian Mau) ซึ่งเป็นแมวอียิปต์โบราณ ที่มีโครงสร้างเป็นลายจุด ลักษณะคล้ายแมวป่า โดยถูกนำมาพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยฝีมือของ Jean Mills หญิงสาวชาวอเมริกัน ที่หลงใหลคลั่งไคล้ในลวดลายของแมวป่า พร้อมกับตั้งชื่อของมันตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่าที่เรียกกันว่า Felis Bengolensis

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเบงกอล

          แมวเบงกอลเป็นแมวขนาดปานกลางถึงค่อนข้างใหญ่ หัวมีความยาวมากกว่าความกว้าง  เช่นเดียวกับรูปร่างที่มีลักษณะเพรียวยาว เห็นมัดกล้ามเนื้อชัดเจนคล้ายแมวป่า เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นว่า ช่วงสะโพกมีความสูงกว่าหัวไหล่ ปลายหางชี้ลง ใบหูกลมสั้น ตารูปไข่ มีช่วงปากกับจมูกกลมกว่าแมวบ้าน และมีจุดเด่นอยู่ที่ลายขนคล้ายแมวป่า หรือที่เรียกกันว่า ลายหินอ่อน

          ถึงแม้แมวเบงกอลจะสืบสายพันธุ์มาจากแมวป่า แต่พวกมันกลับมีนิสัยน่ารักไม่ดุร้ายอย่างที่คิด แถมยังเป็นมิตรกับทุกคนเสียด้วย นอกจากนี้แมวเบงกอลยังเป็นแมวที่ซุกซน เพราะชอบวิ่งไล่สิ่งของต่าง ๆ รวมทั้งชอบปีนป่ายขึ้นที่สูงอยู่เป็นประจำ ที่สำคัญแมวพันธุ์นี้ชอบเล่นน้ำเอามาก ๆ ด้วย

          
 การเลี้ยงดูแมวเบงกอล


          การเลี้ยงดูแมวเบงกอลก็เหมือนกับการดูแลแมวทั่วไป แต่ถ้าอยากให้มันมีสุขภาพดีและมีขนที่สวยงาม ควรใส่ใจในเรื่องอาหารเป็นพิเศษ โดยต้องเพิ่มเมนูเนื้อวัวสดจากอาหารที่กินเป็นประจำ ซึ่งเนื้อสดที่ให้ก็ต้องผ่านการเก็บรักษาด้วยการแช่แข็ง เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรากับแบคทีเรีย และห้ามให้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูโดยเด็ดขาด
    
            หลังจากที่ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับแมวทั้ง 10 สายพันธุ์ดังกล่าวไปแล้ว หวังว่าจะช่วยให้ผู้สนใจเลี้ยงแมว  สามารถเลือกสายพันธุ์แมวที่ถูกใจ และเหมาะกับไลฟสไตล์ของคุณ ซึ่งหลังจากต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้านแล้ว เจ้าของควรให้ความรักและดูแลมันเป็นอย่างดี เพราะสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ เหล่านี้ต้องการความอบอุ่นจากคุณมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น